วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

ระบบสุริยจักรวาล

กำเนิดระบบสุริยะ

เกิดจากกลุ่มก๊าซและฝุ่น ที่เรียกว่า โซลาร์เนบิวลา (Solar Nebula)  เมื่อประมาณ 4,600 ล้านปีที่ผ่านมา กลุ่มฝุ่นก๊าซยุบตัวหมุนเป็นรูปจานที่ใจกลางของกลุ่มก๊าซเกิดเป็นดาวฤกษ์ คือ  ดวงอาทิตย์ ประมาณร้อยละ 99.8 ของมวลทั้งหมด  เศษฝุ่นและก๊าซที่เหลือจากการเกิดดาวฤกษ์ เคลื่อนที่อยู่ล้อมรอบ เกิดการรวมตัวกันภายใต้อิทธิพลของแรงโน้มถ่วง กลายเป็นดาวเคราะห์และวัตถุท้องฟ้าในระบบสุริยะ
ระบบสุริยะ ประกอบด้วย ดวงอาทิตย์ (The sun) เป็นศูนย์กลาง มีดาวเคราะห์ (Planets) 8 ดวง เรียงตามลำดับจากในสุดคือ ดาวพุธ  ดาวศุกร์  โลก   ดาวอังคาร  ดาวพฤหัสบดี  ดาวเสาร์   ดาวยูเรนัส    ดาวเนปจูน   ดาวเคราะห์นั้นไม่มีแสงสว่างในตัวเอง เราสามารถมองเห็นได้เนื่องจากพื้นผิวดาวสะท้อนแสงจากดวงอาทิตย์แล้วเข้าสู่ตาเรา   

ดาวเคราะห์
ดาวเคราะห์ทั้ง 8 สามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มต่างๆ ได้ดังนี้

แบ่งตามลักษณะทางกายภาพหรือลักษณะพื้นผิว
1. ดาวเคราะห์ชั้นในหรือดาวเคราะห์แข็ง (Inner or Terrestrial Planets) :จะเป็นกลุ่มดาวเคราะห์ ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าอีกกลุ่ม เป็นดาวเคราะห์ที่เย็นตัวแล้วมากกว่า ทำให้มีผิวนอกเป็นของแข็ง เหมือนผิวโลกของ ได้แก่ดาวพุธ , ดาวศุกร์,โลก และดาวอังคาร  ซึ่งจะใช้แถบของดาวเคราะห์น้อย(Asteroid Belt) เป็นแนวแบ่ง 
2. ดาวเคราะห์ชั้นนอกหรือดาวเคราะห์ก๊าซ (Outer or Giant Gas Planets)จะเป็นกลุ่มดาวเคราะห์ที่อยู่ไกลดวงอาทิตย์มากกว่าอีกกลุ่ม เป็นดาวเคราะห์ที่เพิ่งเย็นตัว ผิวรอบนอกปกคลุมด้วยก๊าซมีเทน แอมโมเนีย ไฮโดรเจน  และฮีเลียม  ได้แก่ ดาวพฤหัสบดี , ดาวเสาร์ , ดาวยูเรนัส  และดาวเนปจูน

แบ่งตามวงทางโคจรโดยใช้วงโคจรของโลกเป็นเกณฑ์ สามารถแบ่งดาวเคราะห์ได้ ดังนี้
1. ดาวเคราะห์วงใน (Interior planets) หมายถึง ดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากกว่าโลก ได้แก่ ดาวพุธ และดาวศุกร์
2. ดาวเคราะห์วงนอก (Superior planets) หมายถึง ดาวเคราะห์ที่อยู่ถัดจากโลกออกไป ได้แก่ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน

ดาวพุธ
เป็นดาวเคราะห์ที่อยู่ใกล้กับดวงอาทิตย์ มากที่สุดและเป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดเล็กที่สุด สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ดังนั้นดาวพุธจึงร้อนจัดในเวลากลางวันและเย็นจัดในเวลากลางคืน จึงได้ฉายาว่า เตาไฟแช่แข็ง สังเกตเห็นด้วยตาเปล่าได้ตอนใกล้ค่ำและช่วงรุ่งเช้า ดาวพุธไม่มีดวงจันทร์เป็นดาวบริวาร ดาวพุธหมุนรอบตัวเองจากทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออกกินเวลาประมาณ 58-59 วัน และโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ ใช้เวลา 88 วัน


ดาวศุกร์
ดาวศุกร์อยู่ใกล้โลกมากที่สุดสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า  ใหญ่เป็นอันดับ 6 เนื่องจากขนาดมวล ความหนาแน่นและองค์ประกอบของธาตุต่างๆ มีความคล้ายคลึงกับโลกมาก จึงได้ชื่อว่าเป็นดาวฝาแฝดโลก ชาวโรมันเรียก วีนัส เป็น เทพธิดาแห่งความรักถ้าเห็นดาวศุกร์ทางทิศตะวันตกในเวลาหัวค่ำ เรียกว่า ดาวประจำเมือง ถ้าเห็นดาวศุกร์ทางทิศตะวันออกในเวลาเช้ามืด เรียกว่า ดาวประกายพรึก ชั้นบรรยากาศส่วนใหญ่ของดาวศุกร์เป็นแก๊สดาวศุกร์หมุนรอบตัวเองจากทิศตะวันออกไปยังทิศตะวันตก ไม่มีดวงจันทร์เป็นดาวบริวาร


โลก

โลกมีอายุประมาณ 4,600 ล้านปี ใหญ่เป็นอันดับ 5 โลกมีฉายาว่าดาวเคราะห์สีน้ำเงิน เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ประกอบด้วยพื้นน้ำ 3 ส่วน หรือ 71% และมีพื้นดิน 1 ส่วน หรือ 29 % โลกเป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ เนื่องจากมีชั้นบรรยากาศและมีระยะห่าง จากดวงอาทิตย์ที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต



ดาวอังคาร
ดาวอังคารสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ใหญ่เป็นอันดับ 7 ผิวพื้นเป็นหินสีแดงจึงได้ชื่อว่าเทพเจ้าแห่งสงคราม หรือดาวเคราะห์สีแดง หินบนดาวอังคารที่มีสีแดงเพราะเกิดสนิมท้องฟ้าของดาวอังคารเป็นสีชมพูเพราะฝุ่นจากหินแดงนี้ผิวของดาวอังคารจึงเหมือนกับทะเลหินแดง อยู่ห่างจากโลกของเราเพียง 35 ล้านไมล์ และ 234 ล้านไมล์ ดาวอังคารมีดวงจันทร์เป็นบริวาร 2 ดวงคือโฟบอส และ ดีมอส


ดาวพฤหัส
ฉายาว่าโลกยักษ์หรือดาวเคราะห์ยักษ์ เนื่องจากเป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะจักรวาล สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า  หมุนรอบตัวเอง 1 รอบใช้เวลา 9.8 ชั่วโมง ซึ่งเร็วที่สุดในบรรดาดาวเคราะห์ทั้งหลาย และโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ ใช้เวลา 12 ปีนักดาราศาสตร์อธิบายว่า ดาวพฤหัสเป็นกลุ่มก้อนก๊าซหรือของเหลวขนาดใหญ่ ที่ไม่มีส่วนที่เป็นของแข็งเหมือนโลก และเป็นดาวเคราะห์ที่มีดวงจันทร์เป็นดาวบริวารมากถึง  63 ดวง



ดาวเสาร์
เป็นชื่อเทพเจ้าแห่งการเกษตร ขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 2 เป็นดาวเคราะห์สวยที่สุดเราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า  ดาวเสาร์เป็นดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวในระบบสุริยะ ที่มีความหนาแน่นเฉลี่ยน้อยกว่าน้ำหมุนรอบตัวเอง 1 รอบใช้เวลา 10.2 ชั่วโมง และโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบใช้เวลา 29 ปี ลักษณะเด่นของดาวเสาร์ คือ มีวงแหวนล้อมรอบ ซึ่งวงแหวนของดาวเสาร์เป็นก้อนหินและน้ำแข็งสกปรก น้ำแข็งสะท้อนแสงดวงอาทิตย์ได้ดี เราจึงเห็นวงแหวนชัดเจน มีดวงจันทร์เป็นดาวบริวาร  60 ดวง



ดาวยูเรนัส
หรือดาวมฤตยู  เป็นดาวเคราะห์แก๊สสีน้ำเงินเขียวจึงได้ฉายาว่า เทพเจ้าแห่งท้องฟ้าใหญ่เป็นอันดับ  3   มีวงแหวนบาง ๆ ล้อมรอบ  นอกจากนี้ยังมีพื้นผิวและบรรยากาศคล้าย ๆ ดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์ ดาวเนปจูน หมุนรอบตัวเอง 1 รอบ เท่ากับ 17.8 ชั่วโมง และระยะ เวลาในการโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบ เท่ากับ 165 ปี มีดวงจันทร์เป็นดาวบริวาร 27 ดวง



ดาวเนปจูน
หรือดาวเกตุเป็นดาวเคราะห์ดวงสุดท้ายเป็นเทพเจ้าแห่งทะเลหรือเรียกว่าดาวสมุทร โครงสร้างมีความคล้ายคลึงกับกับดาวยูเรนัส ทุกประการ อาจเรียกว่าเป็น ดาวคู่แฝดก็ได้ เพียงมีขนาดเล็กกว่าและมวลมากกว่าเป็นดาวเคราะห์แก๊สสีน้ำเงิน ใหญ่เป็นอันดับ 4 ใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ถึง 165 ปี ดวงจันทร์ของดาวเนปจูนมีถึง 13 ดวง และ Triton จัดว่าเป็นดวงจันทร์ ที่สวยงามและมีขนาดใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะเลยที่เดียว


ดวงอาทิตย์ (The Sun)
ดวงอาทิตย์ประกอบด้วยไฮโดรเจน 74% ต่อมวล ฮีเลียม 25% ต่อมวล และธาตุหนักอื่น ๆ อีก 1% ต่อมวลพลังงานของดวงอาทิตย์มาจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน จุดมืด (sunspots) บนดวงอาทิตย์ คือ บริเวณที่มีสนามแม่เหล็กเข้มข้นสูงมาก บางครั้งจะมีการลุกจ้า (flares) การลุกจ้า (flares) บนดวงอาทิตย์เป็นการระเบิดรุนแรง ทำให้มีอนุภาโปรตอoและอิเล็กตรอนความเร็วสูงหลุดออกมา  สามารถส่งผลกระทบต่อชั้นบรรยากาศโลก สนามแม่เหล็กโลก และเกิดปรากฎการณ์พายุสุริยะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น